5.4.56

ผิว....อวัยวะที่เรามองข้าม

 ผิว ……คือสิ่งที่ต้องดูแลรักษา 

ทุกๆวันผิวจะต้องเผชิญกับฝุ่นละออง มลภาวะที่เป็นพิษ แสงแดดที่จัดจ้า หากไม่มีการช่วยเหลือผิวๆก็จะค่อยๆโรยราและตายไปในที่สุด ดังนั้นการดูแลผิวอย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง จะช่วยในการดูดซึมอย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นล่างจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด เรามาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวกันดีกว่าอย่าลืมว่า.....เมื่อผิวเสียไปแล้ว แม้มีเงินล้านก็ไม่สามารถซื้อผิวผืนสวยกลับคืนมาดังเดิม 

เมื่อผิวมีปัญหาหรือผิวสวยไม่ได้ดั่งใจสาวๆหลายท่านมักจะใช้วิธีรุนแรงและรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาผิว เช่น Baby Face, Laser, ใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงโดยลืมคิดถึงอนาคตของผิว เมื่อผิวถูกผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงหรือวิธีการที่รุนแรงก็จะทำลายผิวชั้นบน ทำให้สาวๆมีผิวบางขึ้นผิวเริ่มอ่อนแอ (เปราะบาง, แพ้ง่าย, แสบผิว) เกิดฝ้าลึกและเริ่มมีรอยกระภายใต้ผิว สิ่งต่างๆเหล่านี้คือปัญหาที่ทำให้ผิวเสีย...อย่างน่าเสียดาย 

 ผิว vs แสงแดด....ศัตรูตัวร้ายที่ทำลายผิว

       เนื่องจากปัจจุบันปัญหาที่พบกันบ่อยในหมู่ผู้หญิงมักจะเกิดปัญหาเรื่องของสิว, ฝ้า, กระ, จุดด่างดำ, ตีนกาและรอยเหี่ยวย่น แล้วคุณรู้เปล่าว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงของปัญหานี้ ผิวหนังของเรามีระบบตามธรรมชาติที่คอยป้องกันอันตรายจากแสงอาทิตย์ แต่ในภาวะปัจจุบันแสงแดดเพิ่มความร้อนทวีมากขึ้นเกินกว่าผิวจะต้านทานได้ แสงแดดนอกจากจะทำให้ผิวแก่ก่อนวัย, ผิวแห้งกร้านมีริ้วรอยแล้ว ยังทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วยเราควรจะหลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุด แต่ในชีวิตประจำวันเป็นไปได้ยากเราจึงต้องหาวิธีป้องกันผิวนั่นก็คือ การใช้ครีมกันแดด (Sunscreen) หรือโลชั่นกันแดดอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เนื้อครีมจะซึมซาบเข้าสู่ผิวเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแดดให้สูงขึ้น และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทีมีค่า SPF (Sun Protect Factor) อย่างน้อย 15 เท่า เพราะค่า SPF ที่สูงจะสามารถปกป้องคุณจากแสงแดดได้ดีกว่าครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำกว่า
มารู้จักรังสี UVA และ UVB กันดีกว่า 

รังสี UVA
เป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นยาว พลังงานต่ำทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำแดงส่งผลโดยตรงกับคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ไม่ตึงกระชับ และริ้วรอยก่อนวัย
รังสี UVB
เป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นสั้นพลังงานสูง สามารถทำให้เกิดผิวไหม้ บวมแดง จะส่งผลในเรื่องของการผลิตเม็ดสีผิวหรือเมลานิน ทำให้ผิวหมองคล้ำ, ฝ้า, กระและจุดด่างดำ ถ้าในระยะยาวอาจลุกลามจนกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้ 

โดยสรุป การหลีกเลี่ยงแสงแดดสามารถลดปัญหาที่เกิดจากแสงแดดได้ดีที่สุด นอกเหนือจากนี้ควรป้องกันแสงแดดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ใช้ร่มเวลาที่ต้องออกแดด และการใช้ครีมกันแดดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดควรเลือกให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ร่วมกับวิธีการใช้ที่ถูกต้อง

สาวทำงานใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ก็พอ เนื่องจากโดนแดดเฉพาะกลางวัน

ผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้งหรือต้องออกแดดบ่อยๆ ควรใช้ครีมแดดที่มีค่า SPF 30

สำหรับสาวๆที่ชอบว่ายน้ำ, ไปทะเล, เล่นกีฬากลางแจ้งควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ควรทาก่อนลงน้ำครึ่งชัวโมงจึงจะได้ผล

คนผิวขาวควรใช้ค่า SPFสูงหว่าปกติ เพราะผิวขาวจะมีความไวแสงมากกว่าสีผิวอื่น

ควรทาครีมกันแดดบางๆและเกลี่ยให้ทั่วหน้า

และอย่าลืมว่าการใช้ครีมหรือโลชั่นกันแดดจะไม่ได้ผล 100% สาวๆต้องพยายามหลบเลี่ยงการโดนแดดพกร่มติดตัวหรือใส่เสื้อแขนยาว หากต้องการว่ายน้ำแนะนำว่าควรว่ายในเวลาเช้าตรู่หรือเย็นจะดีกว่าค่ะ


****************************************************


OMG! เซลลูไลท์

คุณผู้หญิงที่อายุมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่ออายุย่าง 30 ปีไปแล้วก็จะพบกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่นมีรอยตีนกา อ้วนมากขึ้น และเกิดเซลลูไลท์ขึ้นบริเวณสะโพก หน้าท้อง ต้นขา ต้นแขนหรือหลัง หากจะอธิบายให้เห็นภาพให้ลองเปรียบเทียบกับผิวส้มคนที่มีเซลลูไลท์จะมีผิวเหมือนเปลือกส้มเมื่อบีบบริเวณที่สงสัยพบว่าผิวเหมือนเปลือกส้ม ใช่เลย!! คุณกำลังมีเซลลูไลท์

เซลลูไลท์ เกิดจากเนื้อเยื่อรอบเซลล์ไขมันอ่อนแรงทำให้รูปทรงของเซลล์เสียหาย เซลล์ไขมันจะดันโป่งมายังชั้นผิวหนังทำให้เกิดลักษณะเป็นตุ่มๆ จริงหรือไม่ที่เซลลูไลท์จะเกิดเฉพาะคนอ้วนในความเป็นจริงเซลลูไลท์สามารถเกิดในคนที่ที่มีน้ำหนักปกติ หรืออ้วนก็ได้เนื่องจากคนเหล่านั้นดูแลตัวเองไม่ดีพอ

เซลลูไลท์ มักจะเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเนื่องจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในผู้หญิงเรียงเป็นแนวตั้งและมีปริมาณไขมันสะสมมาก ส่วนของผู้ชายเรียงเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเล็กๆและมีปริมาณไขมันสะสมน้อย ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงไม่ค่อยพบเซลลูไลท์ในผู้ชาย. 


***************************************************


อาหารทำลายผิว ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างมาก 

1. มาร์การีนและน้ำตาล : เป็นตัวการที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยมากขึ้น 
2. อาหารทอด : เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันทำให้เกิดสิว 
3. กาเฟอีน : เป็นสารที่ดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นจากร่างกาย ทำให้ร่างกายขาดความชุ่มชื้น 
4. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ; ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ และในกรณีที่แพ้จะทำให้ผิวเป็นผื่นแดง 

การได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณของเราอย่างครบถ้วนสม่ำเสมอเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก การที่เราจะมีผิวพรรณที่ขาวใสได้นั้นต้องเริ่มมาจากสุขภาพดีก่อน นั่นหมายถึงอวัยวะภายในต้องดี ผิวเนื้อ ผิวกาย ผิวเซลล์ต้องแข็งแรง เพราะถ้าเซลล์แข็งแรงเส้นเลือดมีความยืดหยุ่นเลือดไหลเวียนดีแล้วส่งออกซิเจนไปถึงผิว จะทำให้เรามีผิวพรรณที่ขาวสดใส หรือเรียกว่าสุขภาพผิวดีนั่นเอง ความงามจากภายในสู่ภายนอกเป็นสิ่งสำคัญที่ให้เรามีความสวยอย่างยั่งยืน ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งการออกกำลังกาย การพักผ่อนที่เพียงพอ และการรับประทานอาหารที่ถูกต้องครบถ้วน เพื่อผิวสวยและสุขภาพที่ดีจะได้อยู่คู่กับตัวเราไปนานๆ 


****************************************************

5 อัศวิน พิชิตความอ้วน! 

อัศวินเหล่านี้มีอยู่ 5 อย่างด้วยกัน ไปทำความรู้จักกับอัศวินพิชิตอ้วนกันดีกว่าค่ะ

มะเขือ : ในมะเขือทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเปราะ มะเขือพวง มะเขือเทศ ล้วนมีสารอาหารที่ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลอย่างวิตามินพี, ไบโอฟลาโวนอยด์และโพแทสเซียม การรับประทานมะเขือจะช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันและคอเลสเตอรอลได้ดียิ่งขึ้น ถั่วเหลือง : อุดมไปด้วยโปรตีนเส้นใย, วิตามินบี1, บี6, บี12, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, ไขมันไม่อิ่มตัว(ไขมันดีสำหรับร่างกาย) และที่สำคัญที่สุดคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ จึงควรรับประทานเมล็ดถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง รับรองว่าไม่อ้วนทั้งยังชะลอความแก่และป้องกันโรคมะเร็งเต้านมได้อีกด้วย

หอมหัวใหญ่ : เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการลดความอ้วนเพราะหอมหัวใหญ่มีคุณสมบัติที่ช่วยเผาผลาญไขมันและลดไขมันได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันน้ำตาลในเลือด

กระเทียม : นอกจากจะช่วยสร้างระบบการสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกหรือถ้าทานสดๆ จะช่วยป้องกันการเกิดสิวได้ กระเทียมยังช่วยขับคอเลสเตอรอลออกจากร่างกายได้ดีเพราะการรับประทานกระเทียมจะทำให้ระบบเผาผลาญไขมันทำงานได้ดียิ่งขึ้ และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ แอปเปิล : ช่วยลดความหิวได้ดีเพราะแอปเปิลมีแป้งและน้ำตาลในรูปของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวถึง75%ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำตาลพิเศษชนิดนี้ได้รวดเร็ว และนำไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลาไม่เกินสิบนาที ดังนั้นความอยากอาหารจึงลดลงทำให้ไม่รู้สึกหงุดหงิดอ่อนเพลียระหว่างก่อนเวลารับประทานอาหารมื้อใหญ่ ๆ นอกจากนี้ในแอปเปิลยังมีสารอาหารจำพวกวิตามินซี บี6ธาตุเหล็ก ทองแดง และโพแทสเซียม ที่ช่วยในการเผาผลาญไขมานและควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกด้วย

****************************************************

4.4.56

ปัญหาผิวหน้ายอดฮิต




1.สิว (Acne) 

เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นบนผิวหนังบริเวณที่สิวชื่นชอบมากเป็นพิเศษคือ บริเวณใบหน้า บริเวณหน้าอกและบริเวณแผ่นหลัง ซึ่งแต่ละจุดนี้เป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุใดปัญหาสิวและความมันส่วนเกิน มักสร้างความกังวลใจให้กับเราได้เสมอ โดยเฉพาะสภาวะอากาศในหน้าร้อนส่งผลให้ต่อมผลิตน้ำในใต้ชั้นผิวผลิตน้ำมันส่วนเกินมาก ส่งผลให้รูขุมขนเกิดการอุดตันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว รอยดำหรือรอยคล้ำซึ่งยากแก่การแก้ไข 

2. ฝ้า (Melasma) 

เป็นแผ่นสีน้ำตาลอ่อนหรือสีน้ำตาลเข้มบนใบหน้ามักพบได้ที่บริเวณโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง, หน้าผาก, จมูก, เหนือริมฝีปาก ฝ้าที่เห็นนั้นเกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีในบริเวณผิวหนังทำงานผิดปกติและส่งเม็ดสีขึ้นมาบนผิวหนังด้านบนเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ความเข้มของสีผิวไม่สม่ำเสมอ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้าคือ แสงแดด ฮอร์โมน ยา เครื่องสำอางและพันธุกรรม                                     

3. กระ (Freckles) 

เป็นจุดสีน้ำตาลเล็กกว่าพบกระจายอยู่บริเวณใบหน้าและผิวหนังที่ถูแสงแดดเป็นประจำจากนั้นจะค่อยๆ มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นและสีเข้มขึ้น                                                                   

ผู้ที่มีฝ้าและกระควรหลีกเลี่ยงการตากแดดเป็นสิ่งที่สำคัญ หากไม่สามารหลีกเลี่ยงได้จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดอย่างต่อเนื่องเสมอและใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสีโดยไม่ทำลายเซลล์สร้างเม็ดสี  

4. ริ้วรอย (Wrinkles)

เกิดจากการที่ใยคอลลาเจน (Collagen) และใยอีลาสติน (Elastine Fiber)  เสื่อมสลายไปตามกาลเวลาทำให้เกิดริ้วรอยจากผิวที่เสื่อมสภาพเมื่ออายุมากขึ้นผิวก็จะอ่อนแอลง  ปริมาณคอลลาเจนและน้ำในชั้นหนังแท้ก็ลดลงตามไปด้วย เป็นเหตุให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยง่ายขึ้นริ้วรอยนี้พบมากบริเวณร่องแก้ม มุมปาก ร่องจมูก และบริเวณรอยแผลเป็น  การที่เรามีผิวที่แห้งเวลาขยับหน้าหรือว่าแสดงอารมณ์ ผิวหน้าของเราเป็นริ้วรอยได้ง่าย จะเห็นได้ชัดบริเวณรอบดวงตา หางตา  หน้าผาก และหัวคิ้ว 


 ขอบอกว่าเรารู้ซึ้ง....ถึงปัญหาเหล่านี้ของคุณ....

ผิวของคนเรามีความแตกต่างกันเฉพาะบุคคลหลายเรื่องของผิวที่คุณอาจไม่เคยล่วงรู้มาก่อน ไม่เคยรู้ว่าผิวมีปัญหาอย่างไร บวกกับการขาดความรู้พื้นฐานในการดูแลผิวเบื้องต้นก็อาจทำให้เป็นแบบนี้........

รักษาสิวมานานมากตั้งแต่อายุ 18 ปี จนเดี๋ยวนี้อายุขึ้นเลขสี่แล้วสิวยังไม่หายแถมยังมีฝ้าลาย...หลุมสิว....อีก
 .......ได้ของแถมเยอะจัง 

รักษาสิวมานานมาก เดี่ยวนี้สังเกตว่าผิวจะเป็นแผ่นไขนูนๆเป็นคลื่นๆเหมือนผิวมะกรูดบริเวณหน้าผาก คาง จมูก

 
.......สต๊อกสิวใต้ผิวไว้เยอะ

รักษาสิวมานานที่ใหนว่าดีก็ไป แต่ก็เหมือนกันหยุดยาไม่ได้ต้องทายาตลอด

.......หยุดปุ๊ป ขึ้นพรึ่บ  (สต๊อกสิวใต้ผิวไว้เยอะ)

หน้ามันเยิ้ม.....สิวอักเสบ....สิวอุดตัน เต็มไปหมด

....... น่าเบื่อมั้ย 

รักษาสิวโดยไปให้เขาใช้เครื่องมือกดสิว และบางครั้งใช้เครื่องมือกรอหน้าเหมือนใช้กระดาษทรายมาถู

.......ของแถมเพียบ

รักษาฝ้ามานานแล้วใหม่ๆก็ดี หยุดยาแล้วกลับมามีคราบดำลึกๆเป็นแผ่นกว้างบนแก้มหนักกว่าเดิม

.......ของแถมที่ได้รับ 

รักษาฝ้ามานานต้องทายาตลอดหยุดยาไม่ได้เลย หยุดแล้วหน้าดำทนไม่ได้

.......หน้าก็ติดยาเป็น

รักษาฝ้ามานาน จนรู้หน้าจะแสบร้อนเมื่อโดนความร้อน

.......โอ๊ย! ทรมาน

รักษาฝ้าอยู่ดีๆ ไหงช่วงหลังสิวขึ้นมาเต็มไปหมด

.......ได้ของแถมเพิ่มแล้วไง

กระเต็มหน้าเลยรักษายังไงก็ไม่หาย
...............
ผิวแห้งขาดน้ำ สิวอุดตันเต็มไปหมด 
...............
รูขุมขนหยาบ ผิวหย่อนหยาน ทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น 

...............

ร้อยแปดปัญหาต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากเราขาดความรู้ในการดูแลผิวที่ดีพอ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับผิว จึงเกิดปัญหาขึ้นอย่างน่าเสียดาย!!!

****************************************************


3.4.56

เรามาเตรียมรับมือกับปัญหาสิวและดูแลผิวกันดีกว่า


1.Balance skin 

ผิวสมดุลย์คือผิวที่มีชั้นผิวสมบูรณ์ไม่หนาบางจนเกินไปกระบวนการผลิตพลังงานกำจัดของเสีย การสร้างผิวใหม่ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผิวแข็งแรงทนต่อสภาพแดดจัด อากาศเปลี่ยน ทำให้มีผิวที่สวยใสสมบูรณ์และยังทำให้ผิวแก่ช้า (Anti Ageing)

วิธีการปรับสมดุลย์ผิว

ไม่ใช้สารชำระล้างที่มีความเป็นด่างสูง มีฟอง เช่น สบู่ โฟม เจล - เพราะจะชำระล้าง NMF ให้หมดไป - ทำให้ผิวสูญเสียความเป็นกรดอ่อน( คุณสมบัติของผิวหนัง)

ลองคิดดูวันหนึ่งล้างหน้า 2 ครั้ง 1 ปี 730 ครั้ง ผ่านไปหลายปีผิวย่อมเสียสมดุลย์ ปัญหาต่างๆก็มาเป็นพรวน ตั้งแต่

คนผิวแห้ง ผิวยิ่งแห้งตึง – ขาดน้ำ – กระตุ้นให้เกิด – คอมีโดน – สิวอุดตัน – ผิวขาดน้ำ – Dehydrate – Sensitive – Reactive – Allergy

คนผิวมัน ผิวชั้นบนแห้งรูขุมขนปิดคอมีโดน สิวหัวขาว สิวหัวดำ สิวอักเสบดังนั้น แค่เปลี่ยนการล้างหน้า ผิวจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด



****************************************************************


2.คุณรู้รึเปล่าผิวแพ้ง่าย (SensitiveSkin) ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดกับคนผิวแห้งซึ่งมีวงจรอย่างนี้

ผิวแห้งขาดน้ำ (Dehydrate) – ผิวแพ้ง่าย (Sensitive) – ผิวไว (Reactive) – (ผิวแพ้) Allergy

ดังนั้นถ้าเป็นแค่ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin) ก็ต้องแก้ไขปัญหาเรื่องผิวแห้งขาดน้ำ (Dehydrate) ก่อน แล้ววงจรผิวจะไม่พัฒนาไปถึงผิวแพ้ (Allergy)



****************************************************************



3.เป็นฝ้ามานาน รักษาตลอดก็ไม่หายขาด เดี๋ยวดี เดี๋ยวคล้ำ

ผิวเป็นฝ้าจะมีปัญหาที่เซลล์สร้างสีMelanocyteอาจอยู่ในสภาพเสียสมดุลย์ เนื่องจากยา,สารเคมีบางตัวจึงทำให้ผิวไวต่อแสงเนื่องจากผู้ที่เป็นฝ้าเกือบทุกคนจะมีความรู้สึกที่เห็นฝ้าเข้มขึ้นไม่ได้จึงเลือกใช้ยา,สารเคมีที่ทำให้หน้าขาวเร็วนี่คือสาเหตุที่รักษาไม่หายสักทีเพราะสารที่เน้นขาวเร็วไวยิ่งทำให้ผิวOverSensitiveไวแสงมากยิ่งขึ้นเป็นแบบนี้เรื่อยไป

จริงๆการรักษาผิวที่เป็นฝ้าต้องเน้นการบำรุงให้น้ำแก่ผิวถ้าผิวชุ่มชื่นจะมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนผิวเก่าขณะเดียวกันเราค่อยๆ DeepCleansing ผิวและมีการขจัด

เซลล์ตายเป็นระยะๆให้เหมาะสมผิวที่เกิดใหม่ก็จะค่อยๆสวยสมบูรณ์แข็งแรงและค่อยๆผลัดเซลล์ฝ้าเก่าทิ้งไป ต้องอดทน & รอคอย ถ้าต้องการผลถาวร



****************************************************************


เพื่อนๆรู้มั้ยปัญหาผิวทั้งหลาย สิว ฝ้า กระ ริ้วรอย แพ้ง่ายเริ่มจาก Dehydrate – Sensitive – Reactive – Allergy ลองเช็คดูว่าคุณเข้าสู่วงจรรึยังและอยู่ช่วงใหนคะ

BalanceSkinผิวสมดุลย์ คือ ผิวที่มีชั้นผิวสมบูรณ์ไม่หนาบางจนเกินไป กระบวนการผลิตพลังงานกำจัดของเสีย

ถ้าคุณมี Balance Skin จะช่วย Anti – Ageing

ผิวของคนในยุคนี้จะมีปัญหาเกี่ยวกับผิวแห้งมาก นั่นแสดงว่าเข้าสู่วงจรแล้วหล่ะ

สิว สิว สิว เพราะเราจะพยายามลดความมันบนใบหน้ากันมากไปทำให้ผิวเสียสมดุลย์ ทำให้เกิดการอุดตันผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดเน้นแต่ลดความมันทำให้เราเข้าสู่วงจรและผิว

จะมีการเร่งผลิตน้ำมันขึ้นมาชดเชย



****************************************************************


5. รู้หรือเปล่า! การล้างหน้าที่ผิดจะเป็นการทำร้ายผิวอย่างมากมาย วันนึงล้างหน้า 2 ครั้ง 1 ปี 730 ครั้ง ผ่านมา 20 ปีแล้วทำร้ายผิวไปกี่ครั้งแล้วจ๊ะ?


6. เคยรู้มั้ย! ผิวเรามีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ (pH 5.5) การล้างหน้าด้วยสบู่ โฟม เจล (มีฤทธิ์เป็นด่าง) จะล้างไขผิวตามธรรมชาติออกไปจนหมด ทำให้ผิวแห้งตึง ริ้วรอย ฝ้า กระ สิว มาเป็นขบวน


7. ทำไมการล้างหน้าด้วยสบู่ โฟม เจล จึงเป็นสาเหตุเริ่มต้นของการเกิด ริ้วรอย ฝ้า, กระ, สิว

สบู่, โฟม, เจล จะมีฤทธิ์เป็นด่างทำความสะอาดได้ดี เพราะมีสารชำระล้าง SLS (Sodium Laryl Sulfate) จะทำความสะอาดได้ดีมาก..... (เค้าใช้ล้างพื้นโรงงาน, เครื่องยนต์ต่างๆ ) หน้าเราก็เลยพัง....นะสิ


8. ทำไมพัง พังยังไง………ก็มันล้างสะอาดเกินไปไขผิวธรรมชาติ NMF หายหมด ร่างกายก็เร่งผลิตชดเชยทำให้เกิดสิวอุดตัน (กรณีเป็นคนผิวมัน)


9. แล้วคนผิวแห้งเป็นยังไงผิวแห้งเมื่อล้างด้วยสบู่ โฟม เจล เป็นเวลานาน ๆ ผิวจะขาดน้ำ Dehydrate – Sensitive – Reactive – Allergy


10. แล้วทำให้เกิดริ้วรอย ฝ้า, กระ, ยังไงหรือเมื่อผิว Dehydrate (แห้งขาดน้ำ) ผิวไวต่อแสงแดดรับ UV ได้มากกว่าปกติ ทำให้เกิดริ้วรอย, ฝ้า, กระ ตามมาเป็นกระบวน


11. รู้แล้วลองเปลี่ยนการล้างหน้าดูสิ หยุดใช้สบู่, โฟม, เจล ล้างหน้าซะแล้วจะหนุ่ม - สาวขึ้นปัญหาต่างๆ จะค่อยๆ ลดลง


12. อ้าว ! แล้วจะใช้อะไรล้างล่ะปกติเราใช้พวก Lait U, EV, VIP O2 ล้างเครื่องสำอาง แล้วใช้ Lotion P50 ตามแค่ 2 ขั้นตอน หน้าก็ใสปิ้ง


13.คุณรู้จักสิว.......มากแค่ใหน? โอ๊ะ โอ๊ะ โอ๊ย ...

มันมาอีกแล้วก็จะอะไรซะอีกล่ะคะถ้าไม่ใช่เจ้า "สิว" ตัวดีที่คอยมากวนใจยังไงล่ะคะ คงไม่มีสาวๆคนไหนกล้าปฏิเสธหรอกนะคะว่าเจ้าสิ่งแปลกปลอมเม็ดเล็กๆที่ขึ้นกระจายอยู่บนใบหน้าเนี่ยสร้างปัญหาหนักอกหนักใจให้กับสาววัยใสอย่างเรามาหลายครั้งหลายคราแล้วไหนจะทำให้ผิวหน้าใสๆหมดสวยแถมยังรักษายากหรือบางครั้งถ้าปล่อยปะละเลยก็อาจจะทำให้ลุกลามเป็นสิวอักเสบแล้วก็ฝากรอยด่างดำเอาไว้ให้เราเจ็บใจเล่นอีกต่างหาก

กระบวนการเกิดสิว

สิวเกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันComedoneบริเวณรูขุมขนซึ่งได้ผลิตน้ำมันออกมาเกิดไปผสมกับเชื้อแบคทีเรียและเซลล์ผิวที่ตายแล้วทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนจนเป็นสาเหตุของการเกิดสิว


ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดสิว 
  • การผลิตไขมันมากเกินไปทำให้เกิดการอักเสบ
  • ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง เช่น การมีรอบเดือน
  • ความเครียดทางอารมณ์
  • อาหารและสารเคมีในเครื่องสำอาง

เรามาเตรียมรับมือกับปัญหาสิวและดูแลผิวกันดีกว่า

ขั้นตอนที่ 1: Cleansing Milk Lait U (น้ำนมล้างหน้า เลท์ยู)
ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก (Sweet Almond Oil) เก็บกักความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ (Hazelnut Oil) กระตุ้นการสร้างผิวใหม่

ขั้นตอนที่ 2: Deep Cleansing Lotion P50 (โลชั่น พี50)
เป็นโลชั่นควบคุมต่อมไขมันโดยมี (Sage) ช่วยลดความมันของผิว ฆ่าเชื้อโรค (Bio Sulfur) ปรับระดับการทำงานของต่อมไขมันให้สมดุล (Lactic Acid) ทำความสะอาดล้ำลึกขจัดเซล์ตายทำให้ผิวแข็งแรง

ขั้นตอนที่ 3: Mask Vivant (มาร์ค วิวองท์)
มาร์คทำความสะอาดผิวมี(WitchHazel)ลดการอักเสบปรับสภาพผิวดูดซับน้ำมันส่วนเกิน(Yeast)ซ่อมแซมผิวให้ยกกระชับดูเต่งตึงเสริมประสิทธิภาพควบคุมความมันทำให้ผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์

ขั้นตอนที่ 4: Serum Iribiol (เซรั่ม ไอริไบอัล)
สกัดจากดอกIrisมีประสิทธิภาพสูงในการปรับสมดุลการหลั่งน้ำมันผิวควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน(Zinc)ช่วยลดการเกิดสิวอักเสบและความมันบนใบหน้า ได้ดี

ขั้นตอนที่ 5: Specific Cream Dermopurifiante (ครีม เดอร์โมเพียวริเฟียง)มีคุณสมบัติพิเศษในการทำวามสะอาดผิวมี(Yeast)ควบคุมความมันเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวทำให้ผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์ (Arnica) ช่วยปกป้องผิวจากการระคายเคือง (Yarrow) ลดปัญหาการสะสมของไขมันอุดตันใต้ผิวหนัง (Vitamin C; Vitamin PP) ต่อต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแก่ผิว

รู้อย่างนี้แล้วสาวๆ อย่าปล่อยปะละเลยจนผิวขาดความสดใสนะคะ ไม่อย่างนั้นเจ้าสิวร้ายอาจจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้ผิวสาวหมดความใสไปก็ได้ค่ะ


****************************************************************


BEFORE - AFTER ภาพเคสต่างๆที่ใด้รับการดูแลรักษาจากผู้เชี่ยวชาญอย่างถูกต้อง





100% FREE OF ALL PHOTO MANIPULATION TECHNIQUES // ALL PHOTOS IN THIS ALBUM ARE BELONG TO ERICSON BIOTECH, NO COMMERCIAL USE. เคสทั้งหมดใช้ผลิตภัณฑ์ของ Biologique Recherche + เทคนิคการเก็บสิวด้วยเข็มจากผู้เชี่ยวชาญของ ERICSON BIOTECH. ใครหนักใจกับปัญหาสิวบ้าง? ทางเรายินดีที่จะให้คำปรึกษาเรื่องปัญหาผิวหน้านะครับ. 






10.9.55

แค่ ๓ วันของการรักษาสิวโดยไม่ใช้ยา






รูปจากทางบ้านส่งมาขอคำแนะนำ ถ่ายใว้ก่อน-หลัง ระยะเวลาเพียง 3วันเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการรักษาสิวอย่างถูกวิธีด้วยชุดรักษาสิว acne cure (รักษาสิวโดยไม่ใช้ยา) 100% NO RETOUCH

5 ขั้นตอนในการรับมือสิว


ขั้นตอนในการรับมือสิว

สิว (Acne) เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นบนผิวหนังบริเวณที่สิวชื่นชอบมากเป็นพิเศษคือ บริเวณใบหน้า บริเวณหน้าอกและบริเวณแผ่นหลัง ซึ่งแต่ละจุดนี้เป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุใดปัญหาสิวและความมันส่วนเกิน มักสร้างความกังวลใจให้กับเราได้เสมอ โดยเฉพาะสภาวะอากาศในหน้าร้อนส่งผลให้ต่อมผลิตน้ำในใต้ชั้นผิวผลิตน้ำมันส่วนเกินมาก ส่งผลให้รูขุมขนเกิดการอุดตันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว รอยดำหรือรอยคล้ำซึ่งยากแก่การแก้ไข

ขั้นตอนในการรับมือกับปัญหาสิวและดูแลผิว

ขั้นตอนที่ 1:  Cleansing Milk Lait U (น้ำนมล้างหน้า เลท์ยู) 
ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก (Sweet Almond Oil) เก็บกักความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ (Hazelnut Oil)กระตุ้นการสร้างผิวใหม่


ขั้นตอนที่ 2:  Deep Cleansing Lotion P50 (โลชั่น พี50)
เป็นโลชั่นควบคุมต่อมไขมันโดยมี (Sage) ช่วยลดความมันของผิว ฆ่าเชื้อโรค (Bio Sulfur)ปรับระดับการทำงานของต่อมไขมันให้สมดุล (Lactic Acid) ทำความสะอาดล้ำลึกขจัดเซล์ตายทำให้ผิวแข็งแรง  

ขั้นตอนที่ 3:  Mask Vivant (มาร์ค วิวองท์)
มาร์คทำความสะอาดผิวมี (Witch Hazel) ลดการอักเสบ ปรับสภาพผิว ดูดซับน้ำมันส่วนเกิน (Yeast) ซ่อมแซมผิวให้ยกกระชับดูเต่งตึง เสริมประสิทธิภาพควบคุมความมันทำให้ผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์

ขั้นตอนที่ 4:  Serum Iribiol (เซรั่ม ไอริไบอัล)
สกัดจากดอก Iris มีประสิทธิภาพสูงในการปรับสมดุลการหลั่งน้ำมันผิว ควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน (Zinc) ช่วยลดการเกิดสิวอักเสบและความมันบนใบหน้าได้ดี

ขั้นตอนที่ 5:  Specific Cream Dermopurifiante (ครีม เดอร์โมเพียวริเฟียง)
มีคุณสมบัติพิเศษในการทำวามสะอาดผิวมี (Yeast) ควบคุมความมันเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวทำให้ผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์  (Arnica)ช่วยปกป้องผิวจากการระคายเคือง (Yarrow)ลดปัญหาการสะสมของไขมันอุดตันใต้ผิวหนัง (Vitamin C; Vitamin PP)ต่อต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแก่ผิว

ง่ายๆเพียง ขั้นตอนที่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ในการรับมือกับปัญหาสิวอย่างได้ผลกับ Biologique Recherche ให้ผิวดูแลเนียนใสรู้สึกสบายผิวอย่างแตกต่าง