5.4.56

ผิว....อวัยวะที่เรามองข้าม

 ผิว ……คือสิ่งที่ต้องดูแลรักษา 

ทุกๆวันผิวจะต้องเผชิญกับฝุ่นละออง มลภาวะที่เป็นพิษ แสงแดดที่จัดจ้า หากไม่มีการช่วยเหลือผิวๆก็จะค่อยๆโรยราและตายไปในที่สุด ดังนั้นการดูแลผิวอย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง จะช่วยในการดูดซึมอย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นล่างจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด เรามาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวกันดีกว่าอย่าลืมว่า.....เมื่อผิวเสียไปแล้ว แม้มีเงินล้านก็ไม่สามารถซื้อผิวผืนสวยกลับคืนมาดังเดิม 

เมื่อผิวมีปัญหาหรือผิวสวยไม่ได้ดั่งใจสาวๆหลายท่านมักจะใช้วิธีรุนแรงและรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาผิว เช่น Baby Face, Laser, ใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงโดยลืมคิดถึงอนาคตของผิว เมื่อผิวถูกผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงหรือวิธีการที่รุนแรงก็จะทำลายผิวชั้นบน ทำให้สาวๆมีผิวบางขึ้นผิวเริ่มอ่อนแอ (เปราะบาง, แพ้ง่าย, แสบผิว) เกิดฝ้าลึกและเริ่มมีรอยกระภายใต้ผิว สิ่งต่างๆเหล่านี้คือปัญหาที่ทำให้ผิวเสีย...อย่างน่าเสียดาย 

 ผิว vs แสงแดด....ศัตรูตัวร้ายที่ทำลายผิว

       เนื่องจากปัจจุบันปัญหาที่พบกันบ่อยในหมู่ผู้หญิงมักจะเกิดปัญหาเรื่องของสิว, ฝ้า, กระ, จุดด่างดำ, ตีนกาและรอยเหี่ยวย่น แล้วคุณรู้เปล่าว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงของปัญหานี้ ผิวหนังของเรามีระบบตามธรรมชาติที่คอยป้องกันอันตรายจากแสงอาทิตย์ แต่ในภาวะปัจจุบันแสงแดดเพิ่มความร้อนทวีมากขึ้นเกินกว่าผิวจะต้านทานได้ แสงแดดนอกจากจะทำให้ผิวแก่ก่อนวัย, ผิวแห้งกร้านมีริ้วรอยแล้ว ยังทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วยเราควรจะหลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุด แต่ในชีวิตประจำวันเป็นไปได้ยากเราจึงต้องหาวิธีป้องกันผิวนั่นก็คือ การใช้ครีมกันแดด (Sunscreen) หรือโลชั่นกันแดดอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เนื้อครีมจะซึมซาบเข้าสู่ผิวเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแดดให้สูงขึ้น และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทีมีค่า SPF (Sun Protect Factor) อย่างน้อย 15 เท่า เพราะค่า SPF ที่สูงจะสามารถปกป้องคุณจากแสงแดดได้ดีกว่าครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำกว่า
มารู้จักรังสี UVA และ UVB กันดีกว่า 

รังสี UVA
เป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นยาว พลังงานต่ำทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำแดงส่งผลโดยตรงกับคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ไม่ตึงกระชับ และริ้วรอยก่อนวัย
รังสี UVB
เป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นสั้นพลังงานสูง สามารถทำให้เกิดผิวไหม้ บวมแดง จะส่งผลในเรื่องของการผลิตเม็ดสีผิวหรือเมลานิน ทำให้ผิวหมองคล้ำ, ฝ้า, กระและจุดด่างดำ ถ้าในระยะยาวอาจลุกลามจนกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้ 

โดยสรุป การหลีกเลี่ยงแสงแดดสามารถลดปัญหาที่เกิดจากแสงแดดได้ดีที่สุด นอกเหนือจากนี้ควรป้องกันแสงแดดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ใช้ร่มเวลาที่ต้องออกแดด และการใช้ครีมกันแดดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดควรเลือกให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ร่วมกับวิธีการใช้ที่ถูกต้อง

สาวทำงานใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ก็พอ เนื่องจากโดนแดดเฉพาะกลางวัน

ผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้งหรือต้องออกแดดบ่อยๆ ควรใช้ครีมแดดที่มีค่า SPF 30

สำหรับสาวๆที่ชอบว่ายน้ำ, ไปทะเล, เล่นกีฬากลางแจ้งควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ควรทาก่อนลงน้ำครึ่งชัวโมงจึงจะได้ผล

คนผิวขาวควรใช้ค่า SPFสูงหว่าปกติ เพราะผิวขาวจะมีความไวแสงมากกว่าสีผิวอื่น

ควรทาครีมกันแดดบางๆและเกลี่ยให้ทั่วหน้า

และอย่าลืมว่าการใช้ครีมหรือโลชั่นกันแดดจะไม่ได้ผล 100% สาวๆต้องพยายามหลบเลี่ยงการโดนแดดพกร่มติดตัวหรือใส่เสื้อแขนยาว หากต้องการว่ายน้ำแนะนำว่าควรว่ายในเวลาเช้าตรู่หรือเย็นจะดีกว่าค่ะ


****************************************************


OMG! เซลลูไลท์

คุณผู้หญิงที่อายุมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่ออายุย่าง 30 ปีไปแล้วก็จะพบกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่นมีรอยตีนกา อ้วนมากขึ้น และเกิดเซลลูไลท์ขึ้นบริเวณสะโพก หน้าท้อง ต้นขา ต้นแขนหรือหลัง หากจะอธิบายให้เห็นภาพให้ลองเปรียบเทียบกับผิวส้มคนที่มีเซลลูไลท์จะมีผิวเหมือนเปลือกส้มเมื่อบีบบริเวณที่สงสัยพบว่าผิวเหมือนเปลือกส้ม ใช่เลย!! คุณกำลังมีเซลลูไลท์

เซลลูไลท์ เกิดจากเนื้อเยื่อรอบเซลล์ไขมันอ่อนแรงทำให้รูปทรงของเซลล์เสียหาย เซลล์ไขมันจะดันโป่งมายังชั้นผิวหนังทำให้เกิดลักษณะเป็นตุ่มๆ จริงหรือไม่ที่เซลลูไลท์จะเกิดเฉพาะคนอ้วนในความเป็นจริงเซลลูไลท์สามารถเกิดในคนที่ที่มีน้ำหนักปกติ หรืออ้วนก็ได้เนื่องจากคนเหล่านั้นดูแลตัวเองไม่ดีพอ

เซลลูไลท์ มักจะเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเนื่องจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในผู้หญิงเรียงเป็นแนวตั้งและมีปริมาณไขมันสะสมมาก ส่วนของผู้ชายเรียงเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเล็กๆและมีปริมาณไขมันสะสมน้อย ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงไม่ค่อยพบเซลลูไลท์ในผู้ชาย. 


***************************************************


อาหารทำลายผิว ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างมาก 

1. มาร์การีนและน้ำตาล : เป็นตัวการที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยมากขึ้น 
2. อาหารทอด : เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันทำให้เกิดสิว 
3. กาเฟอีน : เป็นสารที่ดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นจากร่างกาย ทำให้ร่างกายขาดความชุ่มชื้น 
4. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ; ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ และในกรณีที่แพ้จะทำให้ผิวเป็นผื่นแดง 

การได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณของเราอย่างครบถ้วนสม่ำเสมอเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก การที่เราจะมีผิวพรรณที่ขาวใสได้นั้นต้องเริ่มมาจากสุขภาพดีก่อน นั่นหมายถึงอวัยวะภายในต้องดี ผิวเนื้อ ผิวกาย ผิวเซลล์ต้องแข็งแรง เพราะถ้าเซลล์แข็งแรงเส้นเลือดมีความยืดหยุ่นเลือดไหลเวียนดีแล้วส่งออกซิเจนไปถึงผิว จะทำให้เรามีผิวพรรณที่ขาวสดใส หรือเรียกว่าสุขภาพผิวดีนั่นเอง ความงามจากภายในสู่ภายนอกเป็นสิ่งสำคัญที่ให้เรามีความสวยอย่างยั่งยืน ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งการออกกำลังกาย การพักผ่อนที่เพียงพอ และการรับประทานอาหารที่ถูกต้องครบถ้วน เพื่อผิวสวยและสุขภาพที่ดีจะได้อยู่คู่กับตัวเราไปนานๆ 


****************************************************

5 อัศวิน พิชิตความอ้วน! 

อัศวินเหล่านี้มีอยู่ 5 อย่างด้วยกัน ไปทำความรู้จักกับอัศวินพิชิตอ้วนกันดีกว่าค่ะ

มะเขือ : ในมะเขือทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเปราะ มะเขือพวง มะเขือเทศ ล้วนมีสารอาหารที่ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลอย่างวิตามินพี, ไบโอฟลาโวนอยด์และโพแทสเซียม การรับประทานมะเขือจะช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันและคอเลสเตอรอลได้ดียิ่งขึ้น ถั่วเหลือง : อุดมไปด้วยโปรตีนเส้นใย, วิตามินบี1, บี6, บี12, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, ไขมันไม่อิ่มตัว(ไขมันดีสำหรับร่างกาย) และที่สำคัญที่สุดคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ จึงควรรับประทานเมล็ดถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง รับรองว่าไม่อ้วนทั้งยังชะลอความแก่และป้องกันโรคมะเร็งเต้านมได้อีกด้วย

หอมหัวใหญ่ : เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการลดความอ้วนเพราะหอมหัวใหญ่มีคุณสมบัติที่ช่วยเผาผลาญไขมันและลดไขมันได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันน้ำตาลในเลือด

กระเทียม : นอกจากจะช่วยสร้างระบบการสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกหรือถ้าทานสดๆ จะช่วยป้องกันการเกิดสิวได้ กระเทียมยังช่วยขับคอเลสเตอรอลออกจากร่างกายได้ดีเพราะการรับประทานกระเทียมจะทำให้ระบบเผาผลาญไขมันทำงานได้ดียิ่งขึ้ และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ แอปเปิล : ช่วยลดความหิวได้ดีเพราะแอปเปิลมีแป้งและน้ำตาลในรูปของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวถึง75%ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำตาลพิเศษชนิดนี้ได้รวดเร็ว และนำไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลาไม่เกินสิบนาที ดังนั้นความอยากอาหารจึงลดลงทำให้ไม่รู้สึกหงุดหงิดอ่อนเพลียระหว่างก่อนเวลารับประทานอาหารมื้อใหญ่ ๆ นอกจากนี้ในแอปเปิลยังมีสารอาหารจำพวกวิตามินซี บี6ธาตุเหล็ก ทองแดง และโพแทสเซียม ที่ช่วยในการเผาผลาญไขมานและควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกด้วย

****************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น